ป้ายโฆษณายังจำเป็นอยู่ไหม!! จะทำอย่างไรให้ของเราโดดเด่น
อย่างแรกเลย นักการตลาดหลายๆ ท่านคงกำลังคิดอยู่ว่า ในยุคที่ทุกอย่างแทบจะ Go online เราควรหรือเปล่า ที่จะต้องแบ่งงบบางส่วนในการทำตลาดออฟไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำป้ายโฆษณา เพราะถ้าขนาดใหญ่และอยู่ในจุดที่ดี มีการมองเห็นสูง ค่าเช่าป้ายก็มีราคาแพง ดังนั้นเราจะให้เหตุผลหลักๆ กันว่าทำไมป้ายโฆษณายังจำเป็น
การเพิ่ม Brand Awareness ไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยนักการตลาดจะเลือกจุดวางป้ายประชาสัมพันธ์ที่ลูกค้าสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น ป้ายกองโจรขายคอนโดในถนนที่คอนโดนั้นตั้งอยู่ ซึ่งจะทำให้ผู้คนในละแวกนั้นมองเห็น หรือ การตั้งป้ายแบนเนอร์ร้านอาหารภายในห้าง เป็นต้น
การเพิ่มความถี่ในการมองเห็น ซึ่งจะช่วยให้คนจดจำแบรนด์ของเราได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคสามารถมองเห็นโฆษณาต่างๆ มากมาย การมองเห็นซ้ำๆ จะทำให้เราไปอยู่ในตัวเลือกและการรับรู้ของผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัว และถ้าสังเกตดีๆ ในแต่ละ Location จะไม่มีการติดป้ายคู่แข่งพร้อมกัน ณ ขณะนั้น ซึ่งแตกต่างจากการเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายเห็นเรา ลูกค้าก็จะเห็นโฆษณาจากแบรนด์คู่แข่งเช่นกัน
เสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ จะเห็นได้ว่าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เก่าแก่มีชื่อเสียง แม้ว่าจะทำการตลาดออนไลน์แล้ว ก็ยังมีการขึ้นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์อยู่ดี แต่พวกเขาเลือกที่จะทำแคมเปญให้เชื่อมโยงกัน และในมุมมองผู้บริโภคเราจะรู้สึกโดยอัติโนมัติว่าแบรนด์ที่เราเห็นยิ่งขึ้นป้ายใหญ่และอยู่ในจุดที่ราคาแพงเท่าไหร่ก็จะมีความน่าเชื่อถือมากเท่านั้น เพราะมันคือการออกสู่สาธารณะ และมีคนเห็นเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าท้ายที่สุดแล้ว เราก็ยังต้องออกมาใช้ชีวิตข้างนอกอยู่ดี สิ่งที่ท้าทายสำหรับนักการตลาดคือการทำให้เครื่องมือการตลาดที่เลือกใช้ให้ผลคุ้มค่าที่สุด การเลือกช่องทางการตลาดที่มีราคาต่ำไม่ได้หมายถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่การทำให้ต้นทุนเฉลี่ยตามวัตถุประสงค์การตลาดออกมาต่ำที่สุด นั่นต่างหากคือประสิทธิภาพที่แท้จริง
สำหรับนักการตลาดที่เลือกใช้ ป้ายประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายไวนิล ป้ายอิงค์เจ็ท สติกเกอร์ติดอาคาร หรือแม้กระทั่งสติกเกอร์รถ ซึ่งที่สำคัญคือการทำให้สื่อประชาสัมพันธ์ของเรามีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง วันนี้ Inspirit จะแนะนำทริคเล็กๆ น้อย ให้เราไปเช็คกันดูว่าสื่อประชาสัมพันธ์ของเรา มีลักษณะแบบนี้ หรือไม่
1. Location ที่กลุ่มเป้าหมายมองเห็นมากที่สุด อย่าเลือกที่ราคา เลือกที่ความคุ้มค่า
2. มีเรื่องราวเล็กๆ ซ่อนอยู่ในนั้น เช่น นาฬิกาที่หรูหรา เราอาจเลือกภาพและข้อความสื่อถึงงานเลี้ยง การเข้าสังคมที่มีระดับ ให้ภาพเล่าเรื่องให้ได้มากที่สุด และทำให้กลุ่มลูกค้าเข้าใจภายในระยะเวลาอันสั้นในระดับวินาที
3. Call to action เช่น ถ้า ร้านอาหารที่มี Promotion อาจจะมีประโยคว่า สั่งเลย xxx โดยต้องมั่นใจว่าสิ่งที่บอกให้ลูกค้าทำต้องเข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก มีการใช้คำที่เหมาะสม
4. ขนาดของป้าย ต้องเหมาะสมกับบริเวณโดยรอบ เช่นถ้าสถานที่ใหญ่มาก ต้องมองเห็นจากระยะไกล การเลือกป้ายขนาดเล็ก จะเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
5. เลือกสีและแสง ให้เหมาะสม เช่น ป้ายติดอาคาร ก็ต้องดูที่จะไม่ทำให้ทึบเกินไปและเมื่อพระอาทิตย์ส่องแล้วข้อความต่างๆ จะอ่านไม่ออก หรือป้ายที่เน้นให้ลูกค้ามองเห็นช่วงกลางคืน เราออกเลือกทำป้ายกล่องไฟ เป็นต้น
ท้ายที่สุดและสำคัญที่สุด อย่ากลัวที่จะแตกต่าง กล้าที่จะใส่ลูกเล่นเข้าไป เช่น การทำเป็นภาพ 3D การใช้ลายเส้น หรือกราฟฟิค ที่แปลกใหม่ เป็นต้น เพื่อนๆ อ่านกันแล้ว ลองนำไปวิเคราะห์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับแบรนด์กันดูนะคะ แต่ว่าถ้าใครอยากปรึกษาเกี่ยวกับการทำป้ายประชาสัมพันธ์
สามารถปรึกษาได้ทาง Facebook,Line เลยค่ะ เรามีทีมงานที่เชียวชาญและมีประสบการ์พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง :)
ต้องการคำปรึกษาเพียง scan QR หรือ